Facebook FanPage ของ Change.org ว่า “แคมเปญโปรด” หรือเรื่องราวรณรงค์ที่คุณชื่นชอบที่สุดคืออะไร กว่า 50% ตอบว่า “โรงเรียนเล็ก” ทีมงาน Change.org เลยไปสัมภาษณ์ครูชัชวาย์ ทองดีเลิศ เจ้าของแคมเปญที่มีผู้ลงชื่อผ่าน Change.org ประเทศไทย มากที่สุดเป็นอันดับสองตลอดกาลว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาต่อสู้เรื่องนี้ และผลที่ได้จากการรณรงค์ผ่าน Change.orgคืออะไร… 

1. อยากให้ครูชัชวาลย์ช่วยแนะนำตัว เล่าเกี่ยวกับตัวเองสั้นๆ ค่ะ
ผมชื่อ ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ เป็นประธานสภาการศึกษาทางเลือกและเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา ที่จ.เชียงใหม่ เน้นสอนภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ไม่มีสอนในโรงเรียนทั่วไป เช่น ภาษาล้านนา ดนตรีพื้นเมือง จักสาน เป็นต้น ครับ

2. หน้าที่หลักๆ ของเครือข่ายการศึกษาทางเลือกคืออะไรคะ
เราพยายามสนับสนุนคนที่ทำการศึกษาทางเลือก พยายามเน้นย้ำว่าเราต้องสร้างการศึกษาที่หลากหลายขึ้น เพื่อแก้วิกฤตของการศึกษากระแสหลัก

3. แล้วเครือข่ายการศึกษาทางเลือกทำการรณรงค์ครั้งแรกเมื่อไหร่ และทำกันอย่างไรคะ
เราเริ่มคัดค้านเรื่องโรงเรียนเล็กเมื่อสามปีที่แล้วสมัยรมว. ชินวรณ์ เรามีใบแถลงการณ์ไปยื่นเรียกร้อง เข้าพบรัฐมนตรี และสื่อสารผ่านสื่อ พอเปลี่ยนรมว. เป็นวรวัจน์ เป็นรมว.สุชาติ ธาดาธำรงเวช ก็ประกาศว่าจะยุบอีก เราก็ไปพบอีก เราใช้วิธีการเดียวกันมาโดยตลอด แต่ไม่ค่อยเป็นที่รับรู้มากนัก

4. แรงบันดาลใจของคุณครูในการทำเรื่องรณรงค์คัดค้านการยุบโรงเรียนเล็กคืออะไรคะ
ที่สำคัญเลยคือเราเห็นว่าโรงเรียนขนาดเล็กไม่ได้รับความยุติธรรมอยู่แล้ว การยุบจะยิ่งทำให้นักเรียนลำบากขึ้น ลูกครูเองก็เคยอยู่โรงเรียนเล็ก ตอนอยู่ ป.1 โรงเรียนถูกยุบ เรื่องรับส่งก็ลำบากขึ้น เพราะโรงเรียนไม่ได้อยู่ใกล้บ้าน เด็กต้องข้ามถนนใหญ่ ต้องไปอยู่อีกที่หนึ่งที่เขาไม่คุ้นเคย เป็นเรื่องความห่วงใยด้วย

5. ทำไมคุณครูถึงเลือก Change.org เป็นช่องทางในการรณรงค์คะ
เราปรึกษากันว่าจะทำให้คนมีส่วนร่วมได้อย่างไร เพราะปกติเวลาเรายื่นจดหมายกับรัฐบาล เรามักจะไปเป็นกลุ่มเล็กๆ เราเลยอยากจะถ่ายทอดให้คนอื่นได้รับรู้และให้เขามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นบ้าง เราจึงสนใจ Change.org ครับ

6. แล้วหลังจากที่ใช้ Change.org แล้ว ได้ผลอย่างไรบ้างคะ
คนลงชื่อกันเยอะ ทำให้กระแสคัดค้านในช่วงนี้เด่นชัดขึ้น และสื่อก็หันมาสนใจ ทำให้เกิดช่องทางการสื่อสารเพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เรารณรงค์กัน ไม่มีแบบนี้เลย และที่สำคัญที่สุดคือ มันเป็นการเปิดประเด็นการยุบโรงเรียนขนาดเล็กให้กลายเป็นประเด็นทางสาธารณะ ถึงใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร แต่ก็เป็นที่ถกเถียงในสังคม

7. การได้ทำเรื่องรณรงค์นี้มอบอะไรมุมมองใหม่ๆ ให้กับตัวคุณครูเองบ้างคะ
เราได้รู้ว่ามีคนสนใจประเด็นนี้เยอะ เพียงแต่ก่อนหน้านี้เราไม่รู้จักเขาหรือเขาเข้าไม่ถึงเรา และพอมีคนลงชื่อเยอะ มันมีพลังที่ทำให้กระทรวงต้องฟังเรามากขึ้น เพราะเราบอกได้ว่าไม่ใช่แค่เราไม่กี่คน แต่มีคนในสังคมอีกจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เหมือนกัน

8. คุณครูอยากฝากอะไรถึงผู้ที่ร่วมลงชื่อคัดค้านผ่าน Change.org บ้างไหมคะ
เรื่องโรงเรียนขนาดเล็กนี่เป็นเหมือนยอดภูเขาน้ำแข็ง ที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง แต่จริงๆ ใต้น้ำมันยังมีน้ำแข็งก้อนใหญ่มากที่เราต้องช่วยกันดูแลและแก้ไข จึงอยากให้ทุกคนได้ติดตามข่าวสารต่อไปครับ

9. อยากให้คุณครูเชิญชวนผู้ใช้ Change.org คนอื่นๆ สร้างเรื่องรณรงค์ที่ตัวเองสนใจค่ะ
ผมอยากชวนให้ทุกคนที่ได้มารู้จักกับ Change.org ช่วยกันเสนอประเด็นที่ตนเองสนใจ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของการรณรงค์ คือจะทำอย่างไรให้คนในสังคมได้รับรู้เรื่องที่เราเรียกร้องด้วยเครื่องมือง่ายๆ และการรณรงค์ผ่าน Change.org มันได้ผลและทำให้เรามีพลังที่จะเดินหน้าต่อไปด้วย

การรณรงค์ของครูชัชวาลย์ ร่วมกับผู้ปกครองจากชุมชนต่างๆ พร้อมเสียงสนับสนุนจากกว่า 20,000 จากแต่ล่ะท่านส่งผลให้กระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งชะลอการยุบควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กกว่า 5,000โรง พร้อมทั้งมีการเชิญตัวแทนชุมชน เข้าร่วมประชุมกับกระทรวงฯเพื่อร่วมกันปรับเปลี่ยนแนวคิดเรื่องโรงเรียนขนาดเล็ก โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพผู้บริหารและคุณครู ปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับท้องถิ่น รวมทั้งอาศัยความร่วมมือจากทั้งชุมชน เอกชน และภาคประชาสังคม

หากไม่มี 20,000 เสียงจากพวกคุณทุกคน การเปลี่ยนแปลงดีๆ เช่นนี้คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้

ไปที่ Change.org เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

Facebook | Twitter

Change.org คือเว็บไซต์ที่ประชาชนทั่วไปทุกคนสามารถสร้าง webpage เพื่อรณรงค์ปัญหาใกล้ตัวให้ได้รับการแก้ไขและระดมความรวมมือเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆสู่สังคม

ตั้งแต่คุณแม่ที่รณรงค์ให้ยุติารฉายหนังโหดบนรถทัวร์ที่เมืองไทย ไปจนถึงการรณรงค์ให้ธนาคารยกเลิกค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตในสหรัฐอเมริกา มีผู้ใช้ Change.org มากกว่า 35 ล้านคนในกว่า 196 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบัน Change.org มีสาขาในกว่า 20ประเทศทั่วโลก โดยของไทยได้เริ่มเปิดทดลองใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม มีผู้ใช้แล้วกว่า 200,000 คน และมีการรณรงค์ที่ประสบความสำเร็จไปแล้วมากมาย