www.change.org/maewongdam กล่าวที่สมาคมนักข่าวในวันนี้ว่า ในวันพุธที่ 9 ต.ค. นี้จะมีการแถลงข่าวเปิดตัว กรีนมูฟ Green Move Thailand หรือ เครือข่ายสื่ออาสาภาคประชาชนเพื่อสิ่งแวดล้อม

“จากนั้นในวันเสาร์ที่ 19 ต.ค. เราจะจัดกิจกรรมนำรายชื่อ 1.1 แสนชื่อไปมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้วยการเดินและขี่จักรยานจากหอศิลป์ไปยังทำเนียบรัฐบาล และ องค์การสหประชาชาติ, องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก…

“กิจกรรมครั้งนี้ืคือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ทุกคนสามารถมาแสดงพลังร่วมกัน และอยากเชิญชวนให้ทุกคนออกมาร่วมกัน เพื่อให้รัฐบาลและพลังประชาคมโลกรู้ว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนแม่วงก์” อาจารย์ สมิทธ์กล่าว

จะมีการพิมพ์รายชื่อบนผืนผ้าขนาดใหญ่ โดยอาจารย์ สมิทธ์เชื่อว่าการรณรงค์ครั้งนี้จะทำให้สังคมเห็นว่าคนธรรมดามีพลัง และยังเชื่ออีกว่าประชาคมโลกมีพลังและจะรับฟัง เพราะทรัพยากรธรรมชาติมันเชื่อมกันหมด

สร้างแคมเปญขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำงานของ อาจารย์ศศิน

ดร.สมิทธ์ ตุงคะสมิต อาจารย์จากวิทยาลัยสังคมนวัตกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า “ผมทำแคมเปญ “หยุดเขื่อนแม่วงก์” มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเป็นเครือข่ายเพื่อสนับสนุนการทำงานของอาจารย์ศศิน เฉลิมลาภ เหตุที่ผมใช้่ช่องทางนี้เพราะผมเชื่อมั่นในศักยภาพคนรุ่นใหม่ ท่ี่ใช้ สื่อ Social media ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารที่ดีที่สุด เพราะการสื่อสารเปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นจึงตัดสินใจใช้ platform ของ Change.org เพราะเห็นว่าแคมเปญของ Change.org สำเร็จไปแล้วมากมายทั้งในต่างประเทศและประเทศไทย เช่น โครงการการรณรงค์ให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะ การปลูกต้นไม้คืนทางขึ้นเขาใหญ่ เป็นต้น

Green Move Thailand

“เครือข่ายอาสาภาคประชาชนเพื่อสิ่งแวดล้อม” หรือ Green Move Thailand เป็นการรวมตัวของคนกว่าหลายคนที่มีความเห็นร่วมกัน ที่จะขับเคลื่อนในเรื่องนี้เพื่อต่อยอดการเดินของอาจารย์ศศิน โดยกรีนมูฟจะ ทำหน้าที่เป็นสื่ออาสาที่เชื่อมโยงกับสื่อหลักและภาคประชาชน เพื่อฉายให้ประชาชนได้เห็นภาพที่ชัดเจน และให้มีการสื่อสารกับประชาชนมากขึ้น